เกมพนันที่เราคุ้นเคยนั้นมีเยอะมาก แต่ละเกมนั้นมีกฎกติกาที่ต่างกันไป หากคุณชื่นชอบการเล่นพนัน คุณคงเคยเล่นพนันกันตามบ่อนมาแล้ว และแน่นอน หนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ ป๊อกเด้ง เกมไพ่ที่ใคร ๆ ก็เคยเล่น ในปัจจุบันนี้มีทั้งการเล่นแบบพื้นบ้าน และ เล่นกันในเว็บด้วย นักพนันจึงมีทางเลือกในการเล่นมากขึ้น และไม่ว่า คุณจะเลือกเล่นป๊อกเด้งแบบไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องใส่ใจ นั่นคือ เทคนิค ไพ่ป๊อก โดยเฉพาะเรื่องของการจั่วไพ่ เพราะถือว่าเป็นเทคนิคที่นักพนันจะต้องเรียนรู้
เทคนิค ไพ่ป๊อก คืออะไร ทำไมเราต้องเรียนรู้ในส่วนนี้
เทคนิค ไพ่ป๊อก คือ การเรียนรู้เทคนิคการเล่นไพ่ป๊อกที่นอกเหนือจากกติกาการเล่น จะช่วยให้คุณสามารถเล่นเกมได้อย่างมั่นใจ เพิ่มโอกาสในการชนะเดิมพันมากยิ่งขึ้น สำหรับไพ่ป๊อกนี้ ทุกคนคงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะว่า มีเปิดให้เล่นทั้งบ่อนธรรมดา และ ทางออนไลน์ การเล่นไพ่ตัวนี้ นอกจากอาศัยดวงแล้ว และ ยังต้องเข้าใจในเรื่องของเทคนิคการเล่น การเรียงไพ่ และการจั่วไพ่ด้วย เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะมาศึกษาเรื่องกฎกติกาการเล่น และ เทคนิคการจั่วไพ่ที่คุณควรทำความเข้าใจ
เทคนิคไพ่ป๊อก และ กฎกติกาการเล่นไพ่ป๊อกที่คุณควรทำความเข้าใจ
ไพ่ป๊อก หรือ ป๊อกเด้ง เป็นเกมไพ่ยอดนิยมที่ทุกคนเลือกเล่น เพราะส่วนใหญ่จะมีพื้นฐานในการเล่นกันอยู่แล้ว งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า เทคนิคไพ่ป๊อกที่เกี่ยวกับกฎในการเล่นนั้นมีอะไรบ้าง
- ค่าของหน้าไพ่ ในเกมป๊อกเด้ง เป็นสิ่งหนึ่งที่คุณต้องเรียนรู้ นั่นคือ 10 , J , Q , K มีค่าเท่ากับ 0 ส่วน A มีค่าเท่ากับ 1 ส่วนตัวเลขตั้งแต่ 2-9 จะมีแต้มตามที่อยู่บนหน้าไพ่
- กติกาการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าจะต้องทำแต้มไพ่ให้มีผลรวมเป็น 9 หรือใกล้เคียง 9 คุณจะต้องพิจารณาเอาเองว่า ถ้าคุณได้แต้มนี้ คุณจะขอไพ่เพิ่มหรือเปล่า เป็นต้น
- สำหรับการเล่น ป๊อกเด้ง นั้น สามารถเริ่มต้นได้ ดังนี้ ผู้เล่น หรือ ลูกมือสามารถวางเดิมพันได้ตามต้องการแต่ต้องไม่เกินที่เจ้ามือกำหนด แต่ถ้าไม่มีกำหนดก็เล่นได้เต็มที่เลย หลังจากนั้นเจ้ามือจะแจกไพ่ให้ทุกคนคนละ 2 ใบ ถ้าใครได้ป๊อกก็จะโชว์ไพ่ทันที ใครไม่ป๊อกก็จะนับแต้มตามผลบวกของไพ่แล้วเล่นต่อ ถ้าเจ้ามือป๊อกจะถือว่าจบเกม และเจ้ามือจะวัดแต้มกับผู้เล่น แต่ถ้าเจ้ามือยังไม่ป๊อก ลูกมือก็มีสิทธิ์เรียกไพ่ใบที่ 3 ก่อนวัดแต้ม หลังจากวัดแต้มแล้วเจ้ามือจะต้องจ่ายเงินให้กับผู้ชนะ และผู้แพ้ต้องจ่ายเงินให้กับเจ้ามือ
- ส่วนการวัดผลแพ้ชนะจะมีอยู่หลายแบบ นั่นคือ กรณีวัดผลที่แต้ม เรียงลำดับตั้งแต่ ป๊อก 9 (2 เด้ง) ป๊อก 9 ป๊อก 8 (2 เด้ง) และสุดท้าย คือ ป๊อก 8 ถ้าหากแต้มของไพ่เท่ากันก็จะมีการเรียงไพ่ ดังนี้ เริ่มจากตอง ไป สเตทฟลัท ต่อมาเป็นไพ่เรียง จนถึงไพ่เหลือง และสุดท้าย คือ แต้ม ถ้าเป็นการตองจะต้องวัดกันที่ผลไพ่ โดยเริ่มเรียงจาก K Q J 10 6 5 และ A และสุดท้ายคือ ไพ่เรียงหรือสเตท จะวัดกันด้วยดอกของไพ่นั่นคือ โพดำ โพแดง ข้าวหลามตัด และสุดท้ายคือ ดอกจิก
นี่คือ เทคนิค ไพ่ป๊อกกับกฎกติกาในเบื้องต้นที่คุณควรรู้ และสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องเรียนรู้ นั่นคือ วิธีการจั่วไพ่ ซึ่งมีความต่างกัน ระหว่างผู้เล่น และ เจ้ามือ เพราะฉะนั้น เราจะมาดูกันว่าวิธีการจั่วไพ่นั้นมีอะไรบ้าง
เทคนิค ไพ่ป๊อก กับหลักการทั่วไปในการจั่วไพ่ มีวิธีการอย่างไรบ้าง
เทคนิค ไพ่ป๊อก ที่คุณต้องเรียนรู้อีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ การจั่วไพ่ป๊อก ถือเป็นสุดยอดเทคนิคที่คุณควรเรียนรู้ เรามาดูกันว่าการจั่วไพ่ป๊อกมีวิธีการอย่างไรบ้าง
เงื่อนไขทั่วไปในการจั่วไพ่ คือ ถ้าแต้มรวมของ 2 ใบไม่เกิน 3 แต้ม ทั้งของเจ้ามือและผู้เล่น ต้องมีการจั่วไพ่ แต่ถ้าแต้มรวม 2 ใบ ได้ 8 หรือ 9 แต้ม ถือว่าป๊อก ไม่ต้องจั่วไพ่ แต่ถ้าไพ่ 2 ใบมีแต้มรวม 4-7 แต้ม ผู้เล่นมีสิทธิ์เลือกไพ่ใบที่ 3 ได้ หรือว่าจะเลือกไม่จั่วก็ได้
นี่คือ เงื่อนไขทั่วไปที่คุณจะต้องทำความเข้าใจ แต่ความจริงแล้ว เทคนิค ไพ่ป๊อก ในเรื่องของการจั่วไพ่นี้ ยังมีการจั่วที่แบ่งเป็นของเจ้ามือ และ ผู้เล่นด้วย ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดในประเด็นนี้กัน
เทคนิค ไพ่ป๊อก กับหลักการการจั่วไพ่ของเจ้ามือและผู้เล่น
เมื่อคุณได้เรียนรู้หลักการโดยทั่วไปในเรื่องของการจั่วไพ่แล้ว คุณจะต้องเข้าใจในเรื่องการจั่วไพ่ของเจ้ามือ และ ผู้เล่นด้วย เพราะว่ามันมีกฎที่แตกต่างกันเล็กน้อย
- สำหรับผู้เล่น ถ้าแต้มรวม 2 ใบมีแค่ 4 แต้ม คุณจะต้องจั่ว ไม่ว่าไพ่จะเด้งหรือไม่ก็ตาม และถ้าไพ่แต้มรวมมี 5 แต้ม และไพ่ไม่เด้ง แบบนี้ควรจั่ว แต่ถ้าเด้งต้องดูว่ามีไพ่เรียงด้วยหรือไม่ หากมีลุ้นว่าจะได้ไพ่เรียง แม้วาไพ่เด้งแล้ว ก็ลุ้นได้ทั้งไพ่เรียง และ สเตรทฟลัช แต่ถ้าไม่มีลุ้นไพ่เรียง และไพ่เด้งแล้ว แบบนี้ไม่ควรจั่ว แต่ถ้าแต้มไพ่ 2 ใบรวมกันได้ 6-7 แต้ม แบบนี้ไม่ต้องจั่ว เพราะถือว่าไพ่น่าจะล้มเจ้ามือได้แล้ว
- สำหรับเจ้ามือ ถ้าคุณนั้นมีแต้มไพ่รวม 2 ใบอยู่ที่ 4-5 แต้ม คุณเลือกวัดแต้มกับผู้เล่นที่มีไพ่ 3 ใบก่อน ถ้าคุณมีไพ่รวม 2 ใบในมือมีแต้ม 4-5 แต้ม แต่ไม่มีเด้ง คุณจะต้องจั่วไพ่ทันที แต่ถ้าคุณมีแต้มไพ่อยู่ 6 แต้ม และเด้งแล้ว คุณก็ไม่ควรขอจั่วเพิ่ม ไม่ว่าจะมีลุ้นในส่วนของการเรียงไพ่หรือเปล่า แต่ถ้ามี 6 แต้มแล้วไพ่ไม่เด้ง ไม่ต้องจั่ว แต่ถ้ามีลุ้นในส่วนของการเรียงไพ่ คุณควรจั่ว แต่ถ้ามีไพ่ในมืออยู่ 7 แต้มก็ไม่ควรจั่วเพิ่ม
เรื่องของการจั่วไพ่นี้ คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ขึ้นอยู่ว่าในรอบนั้นมีจำนวนผู้เล่นมากน้อยแค่ไหน คุณจะต้องสังเกตไพ่ของเพื่อนคนก่อนหน้าว่าเป็นเลขอะไร เพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะออกแต้มเหมือนกันแบบติด ๆ กัน
คุณจะเห็นได้ว่า เทคนิค ไพ่ป๊อกในส่วนของการจั่วไพ่นี้ เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องเรียนรู้ เพราะช่วยให้คุณนั้นสามารถเล่นป๊อกเด้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณมีโอกาสที่จะชนะเดิมพันได้มากยิ่งขึ้น สำหรับบางคนที่ยังไม่รู้ว่า เทคนิคของไพ่ป๊อกนี้จะทำให้คุณเล่นเกมได้ประสบความสำเร็จหรือไม่ เราจะมาดูกัน เพื่อให้คุณใส่ใจในการใช้เทคนิคการเล่นมากยิ่งขึ้น
เทคนิค ไพ่ป๊อก ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่นได้อย่างไร
บางคนที่เพิ่งเริ่มเล่น ป๊อกเด้ง คุณอาจไม่เห็นความจำเป็นในการใช้เทคนิค ไพ่ป๊อก ในการเล่น ความจริงแล้ว การเรียนรู้แค่กติกาในการเล่นยังไม่พอ การเรียนรู้ให้รอบด้านจะช่วยให้การเล่นไพ่ป๊อกของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด ยิ่งเมื่อคุณจำเป็นที่จะต้องจั่วไพ่ ถ้าคุณไม่รู้เทคนิคการเล่นเลย ก็ทำให้คุณไม่รู้ว่าควรจะขอไพ่เพิ่มตอนไหน นั่นอาจทำให้คุณเสียเปรียบในการเล่นไพ่ชนิดนี้ได้ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนจะต้องเรียนรู้ให้ดี เพื่อให้คุณนั้นสามารถเลือกช่วงเวลาในการจั่วไพ่ได้อย่างถูกต้อง เพิ่มโอกาสให้คุณชนะเดิมพันได้มากยิ่งขึ้น
สรุป เทคนิค ไพ่ป๊อก เป็นสิ่งที่นักพนันจะต้องเรียนรู้เอาไว้ เริ่มตั้งแต่กติกาการเล่น การอ่านแต้มไพ่ การเรียงไพ่ ไปจนถึงเรื่องการจั่วไพ่ เพราะว่า การเล่น ป๊อกเด้ง ที่มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องใช้ทุกอย่างประกอบกัน ที่สำคัญต้องเข้าเล่นให้บ่อย เพื่อให้คุณตัดสินใจในการเล่นตามสถานการณ์ในเกมได้อย่างรวดเร็ว และ สามารถเอาชนะเดิมพันได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
