แทงบอลค่าน้ำ จะมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น ค่าน้ำแบบยุโรป, ค่าน้ำแบบฮ่องกง และค่าน้ำมาเลเซีย ที่จะให้อัตราของค่าน้ำแตกต่างกันออกไป ดังนั้นผู้ที่ต้องการแทงบอลออนไลน์ จึงควรเรียนรู้ว่าค่าน้ำของแต่ละแบบจะแตกต่างกันที่จุดใดบ้างและแบบไหนที่เหมาะสมต่อการเล่นของคุณมากที่สุด ถ้าคุณต้องการรายละเอียดความแตกต่างของค่าน้ำแต่ละแบบ สามารถอ่านได้ภายในบทความนี้
ทำความรู้จัก แทงบอลค่าน้ำ ความรู้สำหรับมือใหม่
การแทงบอลจะต้องมี แทงบอลค่าน้ำ ที่เปรียบเสมือนค่าบริการของทางเว็บไซต์แทงบอลออนไลน์และทางผู้แทงบอลเองก็อาจได้ประโยชน์จากส่วนนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งค่าน้ำนั้นจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละรูปแบบ ส่วนรูปแบบที่นักพนันชาวไทยจะนิยมเลือกใช้ คือ ฮ่องกง, ยุโรป และมาเลเซีย สำหรับค่าน้ำแบบฮ่องกงถือว่าจะได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย โดยจะไม่เกินที่ 1.30 บาท และจะไม่นับรวมราคาของ 1×2 อธิบายได้ง่าย ๆ ว่าราคาที่คุณเห็นในตารางจะไม่รวมกับเงินทุน แต่จะมาบวกเพิ่มกันในภายหลัง ส่วนค่าน้ำของยุโรปจะแตกต่างตรงที่จะบวกราคาต้นทุนไว้ที่ 1.00 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะสังเกตง่าย ๆ ว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.50 และไม่รวมการเล่นแบบ 1×2 และค่าน้ำแบบมาเลเซียจะถูกเรียกว่าราคาน้ำดำและน้ำแดงที่จะให้ประโยชน์ในเรื่องของการเสียไม่เต็มทุน ได้จะได้เต็มๆ และ รูปแบบได้ไม่เต็ม แต่เสียจะเสียเต็มด้วยเช่นกัน ซึ่ง แทงบอลค่าน้ำ ของมาเลเซียนั้นจะถือว่าแตกต่างไปจากราคาน้ำของที่อื่นแบบสิ้นเชิง
เรียนรู้ แทงบอลค่าน้ำ 3 รูปแบบที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุด
สำหรับการ แทงบอลค่าน้ำ นั้นจะมีด้วยกันหลายรูปแบบ แต่สำหรับนักพนันไทยแล้วจะนิยมการใช้ค่าน้ำแบบฮ่องกง ยุโรป และมาเลเซีย ที่จะมีความแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะค่าน้ำแบบฮ่องกงกับยุโรป คนไทยจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างมาก เมื่อราคารวมทุนแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1.89-2.01 ที่จะเป็นไปตามเงื่อนไขของราคา HDP และราคาแบบสูง-ต่ำ ด้วยความแตกต่างของการเล่น พนันบอล ที่มีการใช้ค่าน้ำทั้ง 3 แบบนี้ คือ
1.ค่าน้ำฮ่องกง
ค่าน้ำแบบราคาฮ่องกงจะสามารถสังเกตได้ว่าจะไม่เกินไปกว่า 1.30 และราคานี้จะเป็นราคาที่ยังไม่รวมกับเงินทุน โดยจะไม่มีการนำ 1.0 มาบวกเพิ่ม ดังนั้นราคาที่คุณเห็นในตารางจะเป็นราคาค่าน้ำเฉพาะที่ยังไม่มีการบวกเพิ่มเงินต้นเข้าไป และราคานี้จะไม่นับรวมราคาของ 1×2 อีกด้วย โดยมีรายละเอียดของการคำนวณค่าน้ำฮ่องกงดังต่อไปนี้
- นำราคาบอลที่คุณต้องการแทงบวกกับ 1.00 เมื่อได้มาแล้วจะกลายเป็นราคาหลักที่จะนำไปคูณกับเงินแทงบอลของคุณ เช่น ถ้าคุณเลือกราคา 0.75 เมื่อนำมาบวกกับ 1.00 จะเป็น 1.75
- เมื่อได้ราคาบอลที่บวกกับ 1.00 มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้คุณนำไปคูณกับจำนวนเงินที่คุณต้องการแทง เช่น ถ้าคุณแทงไปที่ 100 บาท ให้นำ 1.75 x 100 ถ้าคุณชนะตามเงื่อนไขคุณก็จะได้รับเงินทันทีที่ 175 บาท ดังนั้นกำไรที่คุณได้จะอยู่ที่ประมาณ 75 บาท
2.ค่าน้ำยุโรป
สำหรับการ พนันบอล ที่เลือกใช้ราคายุโรปจะถูกเรียกอีกหนึ่งแบบว่าเดซิมอล ซึ่งจะมีความแตกต่างจากราคาของฮ่องกงตรงที่ภายในตารางจะมีการบวกราคาทุน 1.00 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นค่าน้ำเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 1.50 ขึ้นไป และจะไม่นับรวมกับเงื่อนไขราคาของ 1 x 2 โดยมีตัวอย่างการคำนวณดังต่อไปนี้
- การคำนวณของค่าน้ำยุโรปนั้นจะค่อนข้างง่าย โดยให้นำราคาบอลที่คุณต้องการไปคูณกับจำนวนเงินที่คุณจะลงเดิมพันได้ทันที เพราะค่าน้ำยุโรปจะมีการบวกรวมทุกอย่างไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่น ถ้าคุณเลือก 1.75 พร้อมลงเงิน 200 บาทให้คุณนำ 1.75 x 200 บาทได้ทันที ซึ่งคุณจะได้ทั้งหมดคืนกลับมาที่ 350 บาท นั่นเท่ากับว่าคุณได้กำไร 150 บาท เมื่อรวมกับต้นทุน 200 บาท แล้วจึงได้เงินมาทั้งหมด 350 บาท
3.ค่าน้ำมาเลเซีย
สำหรับการ พนันบอล ที่เลือกใช้ราคาน้ำของมาเลเซียจะมีความพิเศษด้วยการเรียกราคาน้ำนี้ว่า “น้ำดำและน้ำแดง” ที่มีความแตกต่างกันออกไปดังต่อไปนี้
- ราคาน้ำแดง หมายถึงการลงทุนฝั่งเจ้าบ้าน ซึ่งถ้าคุณลงฝั่งเจ้าบ้านด้วยราคา 0.75 และแทงที่ 100 บาท จะเป็น 0.75 x 100 ก็จะเท่ากับ 75 บาท ซึ่ง 75 บาทนี้ถ้าคุณแพ้คุณก็จะเสียเงินในจำนวน 75 บาทไป แต่ถ้าชนะคุณก็จะได้กลับไปที่ 175 บาท เมื่อรวมทุนแล้ว
- ราคาน้ำดำ หมายถึงการลงทุนฝั่งทีมเยือน ซึ่งถ้าคุณแทงฝั่งทีมเยือนด้วยราคา 0.75 ด้วยจำนวนเงิน 100 บาท จะเป็น 100 x 0.75 เท่ากับ 75 บาท ซึ่งราคาจะสลับกับน้ำแดง เพราะเมื่อคุณชนะจะได้จำนวนเงินที่ 75 บาท แต่ถ้าแพ้คุณเสียคุณจะเสียไป 100 บาท
แทงบอลค่าน้ำ ทั้ง 3 รูปแบบที่นักพนันชื่นชอบนี้ สามารถนำไปร่วมใช้กับการแทงบอลได้ ถ้าคุณเป็นมือใหม่หัดเล่นให้ศึกษาค่าน้ำเหล่านี้ให้ดี เพื่อที่คุณจะแทงบอลได้อย่างคุ้มค่า
บทความที่เกี่ยวข้อง